สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ได้รวมพลังเสนอ 6 มาตรการเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ

ภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มีมูลค่าตลาดปีละกว่า 8 แสนล้านถึง 1 ล้านล้านบาท ถือเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทย ล่าสุดทั้งสามสมาคมหลัก ได้แก่ สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ได้รวมพลังเสนอ “6 มาตรการเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ” ต่อรัฐบาลรักษาการ ที่เหลือเวลาเพียง 4 เดือน โดยหวังให้เกิด “ควิกบิ๊กวิน” สร้างแรงกระตุ้นให้ตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม

✅ มาตรการแรก คือการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยทุกระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท พร้อมขยายเวลาถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 เพื่อเร่งการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา

✅ มาตรการที่สอง คือการขยายบทบาทของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. ให้สามารถค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยบางส่วนประมาณ 20% สำหรับกลุ่มอาชีพอิสระหรือผู้มีรายได้ไม่แน่นอน เพื่อเพิ่มโอกาสให้เข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่ายขึ้น

✅ มาตรการที่สาม คือการนำระบบ Risk-Based Pricing มาใช้จริง เปิดทางให้ธนาคารสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยงของผู้กู้ได้ ช่วยให้กลุ่มรายได้ปานกลางถึงล่างมีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น

✅ มาตรการที่สี่ คือการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 50% เป็นเวลา 1–2 ปี เพื่อบรรเทาภาระของผู้ประกอบการและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์

✅ มาตรการที่ห้า คือการจัดตั้งนโยบาย “Warehouse Debt” เพื่อให้ประชาชนสามารถรีไฟแนนซ์หนี้นอกระบบหรือหนี้ดอกเบี้ยสูง โดยใช้บ้านที่ผ่อนหมดบางส่วนเป็นหลักประกัน ช่วยลดปัญหาหนี้ครัวเรือนและเพิ่มกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ

✅ มาตรการที่หก คือการขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.5% จาก 1.5% เหลือ 1% เพื่อบรรเทาภาระดอกเบี้ยของประชาชนและภาคธุรกิจ พร้อมทั้งกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์

✅ นอกจากนี้ ทั้งสามสมาคมยังเตรียมเสนอ “มาตรการที่ 7” หรือ “+1 มาตรการ” ต่อรัฐบาลใหม่ในปีหน้า คือการขยายสิทธิการเช่าที่อยู่อาศัยจาก 30 ปี เป็น 60 ปี โดยแก้ไขพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มที่เข้าถึงสินเชื่อยากสามารถเช่าแทนซื้อได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการจูงใจนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาพำนักในไทยมากขึ้น

✅ ในขณะเดียวกันตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจาก 4 ปัจจัยบวก ได้แก่ โครงการใหม่ที่เปิดขายในราคาย้อนยุคต่ำกว่าตลาดราว 10 ปี การลดราคาของโครงการเก่าที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ มาตรการผ่อนคลายสินเชื่อ LTV ที่เอื้อต่อการกู้ซื้อบ้าน และการแข่งขันของธนาคารที่เริ่มปล่อยสินเชื่อมากขึ้นหลังดอกเบี้ยลดลง

✅ อย่างไรก็ตาม ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย ระบุว่า รัฐบาลรักษาการในขณะนี้ยังเน้น “ควิกบิ๊กโหวต” มากกว่า “ควิกบิ๊กวิน” โดยมุ่งออกนโยบายระยะสั้นเพื่อสร้างคะแนนนิยม เช่น โครงการแก้หนี้รายย่อยและ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งครอบคลุมประชาชนเพียงบางส่วน ขณะที่มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างผลลัพธ์เชิงโครงสร้างให้กับเศรษฐกิจได้จริง

✅ ทั้งสามสมาคมอสังหาริมทรัพย์จึงเตรียมนำ “6 มาตรการ + 1” เสนอให้พรรคการเมืองต่างๆ บรรจุเป็นนโยบายด้านอสังหาฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อผลักดันให้ภาคอสังหาริมทรัพย์กลับมาเป็นหัวจักรสำคัญของเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง และสร้างโอกาสการมีบ้านที่มั่นคงให้กับประชาชนทุกกลุ่ม