69 จำนวนผู้เข้าชม |
ราคาที่ดินกรุงเทพฯ “ขึ้นแล้วขึ้นเลย” ปี 2568–2569
โดยฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย พบว่าราคาที่ดินในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมืองหรือย่าน CBD ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจไทยโดยรวมจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่แลนด์ลอร์ดยังคงถือที่ดินแน่น มองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี
✅ ภาพรวมตลาดในช่วงที่ผ่านมา ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่และรายเล็กยังคงให้ความสนใจซื้อขายที่ดินในทำเลใจกลางเมือง เช่น เพลินจิต หลังสวน สีลม สาทร สุขุมวิท รวมถึงพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แม้บางโครงการจะชะลอเปิดตัวเพื่อลดซัพพลายในตลาด แต่ก็ยังมีการปิดดีลแปลงใหญ่ในราคาสูงอย่างต่อเนื่อง
✅ ตัวอย่างดีลสำคัญในปีที่ผ่านมา เช่น แสนสิริ เข้าซื้อที่ดินบนถนนสารสินในราคาประมาณ 3.9 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งถือเป็นราคาที่ดินที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ และบริษัท เอไอเอ ประเทศไทย ซื้อที่ดิน 8 ไร่บนถนนรัชดาภิเษก มูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 1.1 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งเป็นดีลที่สร้างความตื่นตัวในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก
✅ ด้านข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า มูลค่าการซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั่วประเทศในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่าอยู่ที่ 403,923 ล้านบาท ลดลงกว่า 41% จากปีก่อนหน้า ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี แต่ในทางกลับกัน พื้นที่กรุงเทพฯ รอบใจกลางเมืองยังคงคึกคัก โดยเฉพาะทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้าซึ่งยังคงเป็นเป้าหมายหลักของผู้พัฒนาโครงการ
✅ ทำเลที่มีราคาเสนอขายสูงสุดในกรุงเทพฯ ได้แก่ วิทยุ ชิดลม เพลินจิต สีลม สาทร สุขุมวิท ทองหล่อ อโศก เยาวราช ถนนพญาไท และเอกมัย โดยมีระดับราคาตั้งแต่ 1.8–4 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งทำเลวิทยุยังคงครองแชมป์ราคาสูงสุด ขณะที่พื้นที่สุขุมวิทและทองหล่อมีการปรับขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 10%
✅ ปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินยังคงสูงขึ้น ได้แก่ ซัพพลายที่ดินในเมืองที่มีจำกัด แลนด์ลอร์ดส่วนใหญ่ถือที่ดินระยะยาวเพราะมองเห็นมูลค่าเพิ่มในอนาคต เจ้าของที่ดินหลายรายเริ่มหันมาใช้โมเดลเช่าระยะยาวหรือ Leasehold และการร่วมลงทุนแบบ Joint Venture แทนการขายขาด เพื่อสร้างรายได้ระยะยาว
✅ อย่างไรก็ตาม ราคาที่ดินที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกลายเป็นความท้าทายสำหรับดีเวลลอปเปอร์ เพราะทำให้ต้นทุนการพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อราคาขายที่อยู่อาศัยซึ่งอาจสูงเกินกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้พัฒนาหลายรายยังคงมองเห็นโอกาสในการลงทุน โดยเฉพาะในโครงการที่สามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
✅ สำหรับแนวโน้มปี 2569 คอลลิเออร์สคาดว่า ราคาที่ดินในย่าน CBD จะยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่สามารถพัฒนาอาคารสูงได้ เจ้าของที่ดินส่วนใหญ่ยังไม่รีบขายและหันมาสร้างรายได้ทางเลือก เช่น การให้เช่าระยะยาวหรือร่วมทุนกับนักพัฒนา ซึ่งทำให้การซื้อขายใช้เวลานานขึ้น แต่ภาพรวมยังคงอยู่ในทิศทาง “ขาขึ้น”
✅ บทสรุปของตลาดปีนี้คือ ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนต้นทุนโครงการอสังหาฯ ให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่ความต้องการครอบครองที่ดินใจกลางเมืองยังไม่ลดลง คำกล่าวที่ว่า “ขึ้นแล้วขึ้นเลย” จึงยังคงเป็นจริงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปีนี้และปีหน้า
