25 จำนวนผู้เข้าชม |
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานสถานการณ์ล่าสุดของราคาที่ดินในกรุงเทพฯ–ปริมณฑล พบว่า “แนวรถไฟฟ้า” ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ราคาที่ดินเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส โดยเฉพาะเส้นทางที่เปิดบริการแล้วหรืออยู่ระหว่างก่อสร้าง ทำให้พื้นที่รอบสถานีกลายเป็นโซนที่ดึงดูดนักลงทุน ผู้พัฒนาโครงการ และผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยมากที่สุดในปี 2568
รายงานชี้ว่า 5 แนวรถไฟฟ้าหลัก มีอัตราการปรับขึ้นของราคาที่ดินสูงในระดับผิดปกติเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า สะท้อนอานิสงส์จากระบบขนส่งมวลชนที่กำลังขยายตัวและการพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็วรอบสถานีต่าง ๆ
✅ สายสีเขียว สมุทรปราการ–บางปู
เป็นทำเลที่ราคาที่ดินพุ่งแรงที่สุด โดยดัชนีแตะระดับกว่า 338 จุด เติบโตถึง 26% ต่อปี ทำเลพระสมุทรเจดีย์–เมืองสมุทรปราการเริ่มกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของที่อยู่อาศัยและศูนย์โลจิสติกส์ ได้แรงส่งจากผังเมืองสมุทรปราการฉบับใหม่และการเชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิ
✅ สายสีชมพู แคราย–มีนบุรี
ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นกว่า 20% หลังเปิดให้บริการเต็มระบบ แนวสถานีที่ได้รับอานิสงส์มากที่สุดคือ หลักสี่–บึงกุ่ม–เมืองนนทบุรี เหมาะกับคนทำงานย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมรามอินทรา–มีนบุรีที่มีการเติบโตต่อเนื่อง
✅ สายสีม่วง บางใหญ่–เตาปูน
ดัชนีราคาที่ดินเพิ่มเกือบ 20% ทำเลบางใหญ่–เมืองนนทบุรีโดดเด่นทั้งในด้านโครงการแนวราบ คอนโดมิเนียม และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน กลายเป็นที่อยู่อาศัยหลักของครอบครัวเมืองรุ่นใหม่
✅ สายสีน้ำตาล แคราย–ลำสาลี และ สายสีเหลือง ลาดพร้าว–สำโรง
ทั้งสองเส้นทางมีการเติบโตใกล้เคียงกันที่ 19% ต่อปี เป็นเส้นตัดขวางเมืองที่สร้างศักยภาพใหม่ให้กรุงเทพฯ โดยเฉพาะโซนสวนหลวง–วังทองหลาง–ห้วยขวาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีดีมานด์สูงทั้งคอนโดและอาคารสำนักงาน
✅ MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีแดงเข้ม
ทำเลกลางเมือง เช่น คลองเตย วัฒนา และห้วยขวาง ยังคงเป็นโซนยอดนิยม ราคาที่ดินเติบโตมากกว่า 18% ได้อานิสงส์จากโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่และการเชื่อมต่อศูนย์กลางเศรษฐกิจ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ยังประเมินเพิ่มเติมว่า ในปี 2569 รถไฟฟ้าสายใหม่ที่กำลังทยอยเปิดบริการจะเป็นตัวเร่งสำคัญ ทำให้ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่องที่ 15–20% ต่อปี โดยเฉพาะทำเลที่เชื่อมต่อพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออกและสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีศักยภาพสูงสุดสำหรับการลงทุนในอนาคต
แนวโน้มการขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าไม่เพียงช่วยลดเวลาเดินทาง แต่ยังก่อให้เกิดศูนย์พาณิชย์ใหม่ ย่านธุรกิจใหม่ และชุมชนที่อยู่อาศัยใหม่ ทำให้ “แนวรถไฟฟ้า” ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดทิศทางการเติบโตของเมืองและเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในทศวรรษถัดไป
ข้อมูลอ้างอิงจาก bangkokbiznews.com