อสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: เสียงเรียกร้องจากภาคเอกชน สู่ 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

43 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: เสียงเรียกร้องจากภาคเอกชน สู่ 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

อสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: เสียงเรียกร้องจากภาคเอกชน สู่ 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งใน “เครื่องยนต์หลัก” ที่รัฐบาลไทยทุกยุคให้ความสำคัญ เพราะภาคอสังหาฯ ไม่เพียงสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนมหาศาล แต่ยังส่งผลต่อธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น ก่อสร้าง วัสดุตกแต่ง และสินเชื่อบ้าน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2568 แม้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างระมัดระวัง แต่กลับพบว่า นโยบายภาครัฐยังไม่ชัดเจนต่อการกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ท่ามกลางสต๊อกที่อยู่อาศัยรอระบายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากกว่า 200,000 หน่วย รวมมูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาท


ภาคเอกชนรวมพลัง 3 สมาคม เสนอ “6 มาตรการฟื้นตลาดอสังหาฯ”
เพื่อตอบรับสถานการณ์ชะลอตัวของตลาด 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ของไทย ได้แก่

สมาคมอาคารชุดไทย
สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย
สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร
ได้ร่วมกันยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายต่อรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาฯ ให้กลับมาคึกคักอีกครั้งในปี 2569


✅ 1. ลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหลือ 0.01%
ครอบคลุมที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา วงเงินไม่เกิน 7 ล้านบาท พร้อมขยายเวลามาตรการถึง 30 มิถุนายน 2569 เพื่อช่วยลดต้นทุนให้ผู้ซื้อและกระตุ้นกำลังซื้อในตลาด

✅ 2. ขยายการค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดย บสย.
ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาช่วยค้ำประกันบางส่วน (เช่น 20%) สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือกลุ่มที่เข้าถึงสินเชื่อยาก

✅ 3. ปรับนโยบายอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยง (Risk-Based Pricing)
เปิดโอกาสให้ธนาคารสามารถกำหนดดอกเบี้ยแตกต่างตามความเสี่ยงของผู้กู้ เพื่อให้ทุกกลุ่มประชาชนเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่ายขึ้น

✅ 4. ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 50%
ชั่วคราวเป็นเวลา 1–2 ปี เพื่อบรรเทาภาระผู้ถือครองทรัพย์สิน และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนใหม่ในตลาดอสังหาฯ

✅ 5. แก้ปัญหาหนี้นอกระบบด้วย “Warehouse Debt”
ใช้บ้านที่ปลอดภาระหนี้บางส่วนมาค้ำรีไฟแนนซ์หนี้นอกระบบ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยสูงและเพิ่มกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ

✅ 6. ผลักดันให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.5%
จาก 1.5% เหลือ 1% เพื่อช่วยภาคธุรกิจและผู้กู้บ้าน ลดภาระดอกเบี้ย พร้อมกระตุ้นให้เกิดการบริโภคและการลงทุนในภาคอสังหาฯ


เสียงสะท้อนจากผู้นำสมาคมอสังหาริมทรัพย์
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย ระบุว่า หากรัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการภายใน 3 เดือน จะช่วยส่งแรงบวกให้ตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัวต่อเนื่องถึงปี 2569 โดยเฉพาะจาก 4 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่

โครงการใหม่เปิดตัวในราคาย้อนยุค
การลดราคาของโครงการเก่า
ผ่อนคลายนโยบาย LTV
การแข่งขันของธนาคารในสินเชื่อบ้านหลังดอกเบี้ยลด

งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48: สัญญาณเชิงบวกของตลาด
ในวันที่ 30 ตุลาคม–2 พฤศจิกายน 2568 ทั้ง 3 สมาคมจะจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 รวมกว่า 1,000 โครงการ พร้อมอยู่และเปิดขายใหม่ คาดการณ์ยอดขายในงานกว่า 10,000 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภค


มุมมองตลาดปี 2569: ฟื้นบางพื้นที่ แต่ยังท้าทาย
ภูเก็ตและพัทยา เป็นตลาดที่โดดเด่นจากกำลังซื้อของชาวต่างชาติ
กรุงเทพฯ โซนชานเมือง ยังมีความท้าทายจากอุปสงค์ต่ำ
ตลาดออฟฟิศและมิกซ์ยูส เผชิญภาวะซัพพลายล้น
ตลาดบ้านจัดสรรต่ำกว่า 3 ล้านบาท ยังซบเซา จากอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 70%

บทสรุป: ถึงเวลาฟื้นฟู “ตลาดอสังหาฯ” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
อสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเป็นภาคเศรษฐกิจที่มีผลต่อ GDP ถึง 8–12% การออกมาตรการกระตุ้นที่เป็นรูปธรรม เช่น ลดค่าธรรมเนียม โอน-จำนอง ลดภาษีที่ดิน หรือปรับลดดอกเบี้ย จะช่วยให้ตลาดกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งในด้านการอยู่อาศัยและการลงทุน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้